LYRIC
Eng - Thai
I used to rule the world
ฉัยเคยปกครองโลก
Seas would rise when I gave the word
ทะเลจะยกสูงขึ้นเมื่อฉันออกคำสั่ง
Now in the morning, I sleep alone
แต่ตอนนี้ฉันต้องนอนอย่างโดดเดี่ยวในยามเช้า
Sweep the streets I used to own
คอยกวาดถนนที่ฉันเคยเป็นเจ้าของ
I used to roll the dice
ฉันเคยสี่ยงโชคชะตา
Feel the fear in my enemy’s eyes
รู้สึกได้ถึงความกลัวในสายตาของศัตรู
Listen as the crowd would sing
คอยฟังเสียงขณะที่ฝูงชนกำลังร้องเพลง
Now the old King is dead, long live the King
ตอนนี้พระราชาสิ้นพระชนม์แล้ว ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
One minute I held the key
หนึ่งนาทีที่ฉันได้ถือกุญแจ
Next the walls were closed on me
ต่อมากำแพงก็ปิดใส่ฉัน
And I discovered that my castles stand
และฉันก็ค้นพบว่าปราสาทของฉันตั้งตระหง่าน
Upon pillars of salt and pillars of sand
อยู่บนเสาเกลือและเสาทราย
I hear Jerusalem bells are ringing
ฉันได้ยินเสียงระฆังของกรุงเยรูซาเล็มดังขึ้น
Roman Cavalry choirs are singing
คณะนักร้องประสานเสียงทหารม้าโรมันกำลังร้องเพลง
Be my mirror, my sword, and shield
จงเป็นกระจก เป็นดาบ และเป็นโล่ให้กับฉัน
My missionaries in a foreign field
เป็นมิชชันนารีให้ฉันในต่างแดน (มิชชันนารี คือ สมาชิกองค์การทางศาสนาที่เดินทางไปสร้างประโยชน์ในดินแดนอื่น เพื่อประโยชน์ในการเผยแผ่ศาสนา)
For some reason I can’t explain
ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันไม่อาจจะอธิบายได้
Once you’d gone, there was never
เมื่อคุณจากไปก็ไม่เคยมี
Never an honest word
ไม่เคยมีคำที่จริงใจ
And that was when I ruled the world
และนั่นก็คือตอนที่ฉันครองโลก
It was the wicked and wild wind
มันเป็นลมที่ชั่วร้ายและป่าเถื่อน
Blew down the doors to let me in
พัดลงมาที่ประตูเพื่อให้ฉันได้เข้าไป
Shattered windows and the sound of drums
หน้าต่างกระจกแตกและเสียงกลองที่ดังขึ้น
People couldn’t believe what I’d become
ผู้คนแทบจะไม่เชื่อว่าฉันกลายเป็นอะไร
Revolutionaries wait
นักปฏิวัติกำลังเฝ้ารอ
For my head on a silver plate
หัวของฉันอยู่บนจานเงิน
Just a puppet on a lonely string
เป็นได้แค่หุ่นเชิดบนเชือกที่โดดเดี่ยว
Aw, who would ever want to be king?
อ๊ะ ใครจะอยากเป็นพระราชาล่ะ?
I hear Jerusalem bells are ringing
ฉันได้ยินเสียงระฆังของกรุงเยรูซาเล็มดังขึ้น
Roman Cavalry choirs are singing
คณะนักร้องประสานเสียงทหารม้าโรมันกำลังร้องเพลง
Be my mirror, my sword, and shield
จงเป็นกระจก เป็นดาบ และเป็นโล่ให้กับฉัน
My missionaries in a foreign field
เป็นมิชชันนารีให้ฉันในต่างแดน
For some reason I can’t explain
ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันไม่อาจจะอธิบายได้
I know Saint Peter won’t call my name
ฉันรู้ว่าเซนต์ปีเตอร์จะไม่เรียกชื่อฉัน (เซนต์ปีเตอร์ เป็นบิชอปแห่งกรุงโรม)
Never an honest word
ไม่เคยมีคำที่จริงใจ
And that was when I ruled the world
และนั่นก็คือตอนที่ฉันครองโลก
Oh-oh-woah, oh-oh, oh
โอ้ว…
Oh-oh-woah, oh-oh, oh
โอ้ว…
Oh-oh-woah, oh-oh, oh
โอ้ว…
Oh-oh-woah, oh-oh, oh
โอ้ว…
(Oh-oh-woah, oh-oh, oh)
(โอ้ว…)
I hear Jerusalem bells are ringing
ฉันได้ยินเสียงระฆังของกรุงเยรูซาเล็มดังขึ้น
(Oh-oh-woah, oh-oh, oh)
(โอ้ว…)
Roman Cavalry choirs are singing
คณะนักร้องประสานเสียงทหารม้าโรมันกำลังร้องเพลง
(Oh-oh-woah, oh-oh, oh)
(โอ้ว…)
Be my mirror, my sword and shield
จงเป็นกระจก เป็นดาบ และเป็นโล่ให้กับฉัน
(Oh-oh-woah, oh-oh, oh)
(โอ้ว…)
My missionaries in a foreign field
เป็นมิชชันนารีให้ฉันในต่างแดน
(Oh-oh-woah, oh-oh, oh)
(โอ้ว…)
For some reason I can’t explain
ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันไม่อาจจะอธิบายได้
(Oh-oh-woah, oh-oh, oh)
(โอ้ว…)
I know Saint Peter won’t call my name
ฉันรู้ว่าเซนต์ปีเตอร์จะไม่เรียกชื่อฉัน
Never an honest word
ไม่เคยมีคำที่จริงใจ
But that was when I ruled the world
แต่นั่นก็คือตอนที่ฉันครองโลก
Mmm, mmm, mmm, mmm
ฮืม…
Mmm, mmm, mmm, mmm
ฮืม…
Mmm, mmm
ฮืม…
Eng
I used to rule the world
Seas would rise when I gave the word
Now in the morning, I sleep alone
Sweep the streets I used to own
I used to roll the dice
Feel the fear in my enemy’s eyes
Listen as the crowd would sing
Now the old King is dead, long live the King
One minute I held the key
Next the walls were closed on me
And I discovered that my castles stand
Upon pillars of salt and pillars of sand
I hear Jerusalem bells are ringing
Roman Cavalry choirs are singing
Be my mirror, my sword, and shield
My missionaries in a foreign field
For some reason I can’t explain
Once you’d gone, there was never
Never an honest word
And that was when I ruled the world
It was the wicked and wild wind
Blew down the doors to let me in
Shattered windows and the sound of drums
People couldn’t believe what I’d become
Revolutionaries wait
For my head on a silver plate
Just a puppet on a lonely string
Aw, who would ever want to be king?
I hear Jerusalem bells are ringing
Roman Cavalry choirs are singing
Be my mirror, my sword, and shield
My missionaries in a foreign field
For some reason I can’t explain
I know Saint Peter won’t call my name
Never an honest word
And that was when I ruled the world
Oh-oh-woah, oh-oh, oh
Oh-oh-woah, oh-oh, oh
Oh-oh-woah, oh-oh, oh
Oh-oh-woah, oh-oh, oh
(Oh-oh-woah, oh-oh, oh)
I hear Jerusalem bells are ringing
(Oh-oh-woah, oh-oh, oh)
Roman Cavalry choirs are singing
(Oh-oh-woah, oh-oh, oh)
Be my mirror, my sword and shield
(Oh-oh-woah, oh-oh, oh)
My missionaries in a foreign field
(Oh-oh-woah, oh-oh, oh)
For some reason I can’t explain
(Oh-oh-woah, oh-oh, oh)
I know Saint Peter won’t call my name
Never an honest word
But that was when I ruled the world
Mmm, mmm, mmm, mmm
Mmm, mmm, mmm, mmm
Mmm, mmm
Thai
ฉัยเคยปกครองโลก
ทะเลจะยกสูงขึ้นเมื่อฉันออกคำสั่ง
แต่ตอนนี้ฉันต้องนอนอย่างโดดเดี่ยวในยามเช้า
คอยกวาดถนนที่ฉันเคยเป็นเจ้าของ
ฉันเคยสี่ยงโชคชะตา
รู้สึกได้ถึงความกลัวในสายตาของศัตรู
คอยฟังเสียงขณะที่ฝูงชนกำลังร้องเพลง
ตอนนี้พระราชาสิ้นพระชนม์แล้ว ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
หนึ่งนาทีที่ฉันได้ถือกุญแจ
ต่อมากำแพงก็ปิดใส่ฉัน
และฉันก็ค้นพบว่าปราสาทของฉันตั้งตระหง่าน
อยู่บนเสาเกลือและเสาทราย
ฉันได้ยินเสียงระฆังของกรุงเยรูซาเล็มดังขึ้น
คณะนักร้องประสานเสียงทหารม้าโรมันกำลังร้องเพลง
จงเป็นกระจก เป็นดาบ และเป็นโล่ให้กับฉัน
เป็นมิชชันนารีให้ฉันในต่างแดน (มิชชันนารี คือ สมาชิกองค์การทางศาสนาที่เดินทางไปสร้างประโยชน์ในดินแดนอื่น เพื่อประโยชน์ในการเผยแผ่ศาสนา)
ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันไม่อาจจะอธิบายได้
เมื่อคุณจากไปก็ไม่เคยมี
ไม่เคยมีคำที่จริงใจ
และนั่นก็คือตอนที่ฉันครองโลก
มันเป็นลมที่ชั่วร้ายและป่าเถื่อน
พัดลงมาที่ประตูเพื่อให้ฉันได้เข้าไป
หน้าต่างกระจกแตกและเสียงกลองที่ดังขึ้น
ผู้คนแทบจะไม่เชื่อว่าฉันกลายเป็นอะไร
นักปฏิวัติกำลังเฝ้ารอ
หัวของฉันอยู่บนจานเงิน
เป็นได้แค่หุ่นเชิดบนเชือกที่โดดเดี่ยว
อ๊ะ ใครจะอยากเป็นพระราชาล่ะ?
ฉันได้ยินเสียงระฆังของกรุงเยรูซาเล็มดังขึ้น
คณะนักร้องประสานเสียงทหารม้าโรมันกำลังร้องเพลง
จงเป็นกระจก เป็นดาบ และเป็นโล่ให้กับฉัน
เป็นมิชชันนารีให้ฉันในต่างแดน
ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันไม่อาจจะอธิบายได้
ฉันรู้ว่าเซนต์ปีเตอร์จะไม่เรียกชื่อฉัน (เซนต์ปีเตอร์ เป็นบิชอปแห่งกรุงโรม)
ไม่เคยมีคำที่จริงใจ
และนั่นก็คือตอนที่ฉันครองโลก
โอ้ว…
โอ้ว…
โอ้ว…
โอ้ว…
(โอ้ว…)
ฉันได้ยินเสียงระฆังของกรุงเยรูซาเล็มดังขึ้น
(โอ้ว…)
คณะนักร้องประสานเสียงทหารม้าโรมันกำลังร้องเพลง
(โอ้ว…)
จงเป็นกระจก เป็นดาบ และเป็นโล่ให้กับฉัน
(โอ้ว…)
เป็นมิชชันนารีให้ฉันในต่างแดน
(โอ้ว…)
ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันไม่อาจจะอธิบายได้
(โอ้ว…)
ฉันรู้ว่าเซนต์ปีเตอร์จะไม่เรียกชื่อฉัน
ไม่เคยมีคำที่จริงใจ
แต่นั่นก็คือตอนที่ฉันครองโลก
ฮืม…
ฮืม…
ฮืม…
Comments are off this post