ดิอีเกิลส์ (The Eagles) เป็นวงดนตรีร็อกสัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1971 ที่ ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมีเกลนน์ ฟราย, ดอน เฮนลีย์, เบอร์นี ลีดอน และแรนดี ไมส์เนอร์ เป็นสมาชิกรุ่นแรก ตลอดสายงานดนตรีของอีเกิลส์ได้รับรางวัลทางดนตรีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ซิงเกิลอันดับหนึ่งชาร์ท 5 ซิงเกิล, 6 รางวัลแกรมมี, 5 รางวัลอเมริกันมิวสิกอะวอร์ด และอัลบั้มอันดับหนึ่งชาร์ทถึง 6 อัลบั้ม ทำให้อีเกิลส์ได้กลายเป็นหนึ่งในศิลปินที่ประสบความสำเร็จทางดนตรีมากที่สุดตลอดยุค 70 โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 2 อัลบั้ม คือ Their Greatest Hits (1971–1975) และ Hotel California ที่ต่างเป็นหนึ่งใน 20 อัลบั้มขายดีที่สุดในสหรัฐอเมริกาอ้างอิงจากสมาคมอุตสาหกรรมบันทึกเสียงสหรัฐ Hotel California ได้รับการจัดอันดับที่ 37 บนหัวข้อ “500 อัลบั้มที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล” จากนิตยสารโรลลิ่งสโตน รวมไปถึงอันดับที่ 75 บนหัวข้อ “100 ศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล” จากนิตยสารเดียวกันนี้ ในปี ค.ศ. 2004 อีกด้วย
อีเกิลส์ได้กลายเป็นหนึ่งในศิลปินที่มียอดจำหน่ายสูงสุดตลอดกาล ด้วยยอดจำหน่ายบันทึกเสียงรวมมากกว่า 150 ชุด โดยในสหรัฐเพียงที่เดียวกว่า 100 ล้านชุด ซึ่งในบรรดาอัลบั้มทั้งหมด อัลบั้ม Their Greatest Hits (1971–1975) สามารถเก็บยอดจำหน่ายไปถึง 42 ล้านชุด และ Hotel California อีก 32 ล้านชุด โดยในอัลบั้ม Their Greatest Hits (1971–1975) เป็นอัลบั้มที่มียอดจำหน่ายสูงสุดแห่งศตวรรษที่ 20 ในสหรัฐอเมริกา ทำให้พวกอีเกิลส์ได้กลายเป็นศิลปินอันดับที่ 5 ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดและเป็นวงดนตรีที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในประวัติศาสตร์ดนตรีสหรัฐอเมริกา
อีเกิลส์ได้เปิดตัวอัลบั้มแรกในชื่อเดียวกับวง Eagles (ค.ศ. 1972) ซึ่งได้มีเพลงฮิตที่ติดท็อป 40 ถึง 3 เพลง คือ “Take It Easy”, “Witchy Woman”, และ “Peaceful Easy Feeling” ในอัลบั้มที่ 2 Desperado (ค.ศ. 1973) กลับประสบความสำเร็จน้อยกว่าอัลบั้มก่อนหน้านี้ ด้วยการไต่ชาร์ทอันดับที่ 41 เท่านั้น และไม่มีซิงเกิลใดติดท็อป 40 เลย แต่ถึงอย่างไรก็ดี ในอัลบั้มก็ยังมีเพลงที่ฮิตในเวลาต่อมา คือ “Desperado” และ “Tequila Sunrise” วงได้ออกอัลบั้ม On the Border (ค.ศ. 1974) เป็นอัลบั้มต่อมา โดยได้ตัวดอน เฟลเดอร์ เป็นสมาชิกคนที่ 5 ของวง ในการร่วมบันทึกเสียงอัลบั้มครั้งนี้ อัลบั้มมีซิงเกิลติดท็อปชาร์ท 40 2 เพลง คือ “Already Gone” และ “Best of My Love”
ในอัลบั้ม One of These Nights (ค.ศ. 1975) ได้มีเพลงที่ติดท็อป 10 ถึง 3 เพลง คือ “One of These Nights”, “Lyin’ Eyes” และ “Take It to the Limit” และนับเป็นครั้งแรกของวงที่อัลบั้มสามารถติดอันดับ 1 บนบิลบอร์ดฮอต 100 เป็นผลสำเร็จ อีเกิลส์ยังคงเดินหน้าประสบความสำเร็จทางพาณิชย์ด้วยการออกอัลบั้ม Hotel California (ค.ศ. 1976) ซึ่งสามารถจำหน่ายไปได้มากกว่า 16 ล้านชุดในสหรัฐ หรือกว่า 32 ล้านชุดทั่วโลก และมีซิงเกิลอันดับ 1 ถึง 2 เพลง คือ “New Kid in Town” และ “Hotel California” อีเกิลส์ได้ออกสตูดิโออัลบั้มต่อมาคือ The Long Run (ค.ศ. 1979) ซึ่งนับเป็นอัลบั้มสุดท้ายก่อนที่วงจะรวมวงอีกครั้งแล้วร่วมอัดสตูดิโออัลบั้มต่อไปในอีก 28 ปีข้างหน้า ในอัลบั้มมีเพลงฮิตติดท็อป 10 ได้แก่ “Heartache Tonight”, “The Long Run”, และ “I Can’t Tell You Why”
อีเกิลส์ได้แยกวงเมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1980 แต่ก็ได้รวมอีกครั้งในปี ค.ศ. 1994 เพื่อร่วมกันทำอัลบั้ม Hell Freezes Over ที่ได้กลายเป็นหนึ่งในอัลบั้มแสดงสดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดอัลบั้มหนึ่งในประวัติศาสตร์ ภายหลังการทัวร์คอนเสิร์ตอย่างต่อเนื่องในที่สุดอีเกิลส์ ก็ได้รับการบรรจุเข้าสู่หอเกียรติยศร็อกแอนด์โรล ในปี ค.ศ. 1998 และในปี ค.ศ. 2007 อีเกิลส์ก็ได้เปิดตัวสตูดิโออัลบั้มสุดท้าย ภายหลังอัลบั้ม The Long Run กว่า 28 ปี ในอัลบั้ม Long Road Out of Eden (ค.ศ. 2007) ซึ่งสามารถเปิดตัวด้วยอันดับ 1 บนบิลบอร์ดฮอต 100 ทำให้กลายเป็นอัลบั้มที่ 6 ของวงที่สามารถเปิดตัวด้วยอันดับ 1 วงยังคงเปิดตัวอัลบั้มต่อไปด้วยการออกอัลบั้มแสดงสด Long Road Out of Eden Tour เพื่อเสริมการโปรโมตอัลบั้ม Long Road Out of Eden อีกด้วย ในปี ค.ศ. 2013 อีเกิลส์ ก็ได้ออกอัลบั้มแสดงสด History of the Eagles Tour ร่วมกับสารคดี History of the Eagles
ภายหลังการเสียชีวิตของฟราย ในปี ค.ศ. 2016 เฮนลีย์ก็ได้กล่าวสัมภาษณ์กับโรลลิ่งสโตนเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ. 2016 ว่าอีเกิลส์ได้สิ้นสุดลงแล้ว อย่างไรก็ตาม อีเกิลส์ขึ้นแสดงในงานคอนเสิร์ตเดอะคลาสสิกเวสต์แอนด์เดอะคลาสสิกอีสต์ (The Classic West and The Classic East) ที่จัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2017 ร่วมกับดีคอน ฟราย บุตรชายของเกลนน์ ฟราย พร้อมด้วยวินซ์ กิล นักร้องแนวคันทรีชาวอเมริกัน
Added by
Comments are off this post