LYRIC

เวอร์ชั่น 1974 กับเวอร์ชั่น Live จะมีเนื้อเพลงที่ไม่เหมือนกัน (เวอร์ชั่น Live มีเนื้อเพลงเพิ่มเติมเข้ามา และเปลี่ยนคำบางคำ) สำหรับคำแปลของเวอร์ชั่น Live 04:27 นาที (Video ลำดับที่ 4) ให้ใช้คำแปลในแท็บที่มีวงเล็บเพิ่มเติม Live Version

E-T

Everyday my papa would work
ทุกๆ วัน พ่อผมจะออกไปทำงาน
To help to make ends meet
เพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว
To see that we would eat
เพื่อให้เราได้มีกิน
Keep those shoes upon my feet
ให้ผมมีรองเท้าเอาไว้สวมใส่

Every night my papa would take
ทุกๆ คืน พ่อจะอุ้มผมไปนอน
And tuck me in my bed
และห่มผ้าให้ผมบนเตียง
Kiss me on my head
จูบที่หัวผม
After all my prayers were said
หลังจากที่ผมสวดมนต์ก่อนนอนเสร็จ

Growing up with him was easy
ผมเติบโตมากับพ่อด้วยความเรียบง่าย
Time just flew on by
แล้ววันเวลาก็ผ่านเลยไป
The years began to fly
ปีแล้วปีเล่า
He aged and so did I
พ่อเริ่มแก่ขึ้น ผมเองก็อายุมากขึ้นเช่นกัน

I could tell
ผมพอจะดูออก
That mama wasn’t well
ว่าแม่ไม่ค่อยสบาย
Papa knew and deep down so did she, so did she
พ่อเองก็รู้ และลึกๆ ในใจแม่เองก็รู้อยู่เหมือนกัน แม่รู้ตัวเองดี
When she died
ในตอนที่แม่ตาย
Papa broke down and cried
พ่อเศร้า เสียใจ ร้องไห้ออกมา
All he said was: “God, why not take me?”
พ่อพูดได้แต่เพียงว่า “พระเจ้า ทำไมไม่เอาชีวิตผมไปแทน”

Every night he sat there sleeping in his walking chair
ทุกๆ คืน พ่อจะนั่งหลับอยู่บนเก้าอี้เลื่อนตัวเดิมของพ่อ (Walking chair คือเก้าอี้ล้อเลื่อนชนิดหนึ่งที่ใช้ช่วยผู้พิการ และทารกในการเดิน, Rocking chair คือเก้าอี้ที่สามารถโยกไปโยกมาได้ เก้าอี้ที่เรามักจะเห็นบ่อยในหนังผี)
He never went upstairs
พ่อไม่เคยขึ้นไปชั้นบนอีกเลย
All because she wasn’t there
เพราะว่าไม่มีแม่อยู่บนห้องอีกแล้ว
Then one day my Papa said:
แล้ววันหนึ่งพ่อก็พูดกับผมว่า
Son, I’m proud the way you’ve grown
“ลูกชาย พ่อภูมิใจที่ลูกโตมาเป็นแบบนี้
Make it on your own. Oh, I’ll be O.K. alone.”
ใช้ชีวิตตามทางของลูกเถอะ พ่ออยู่คนเดียวได้สบาย”
Every time I kiss my children
ทุกครั้งที่ผมจูบลูกๆ
Papa’s words ring true
ผมนึกถึงคำพูดของพ่อที่มันเป็นจริงเสมอ
Your children live through you
ลูกๆ ของลูกจะโตได้ พวกเขาต้องพึ่งลูกนะ
They’ll grow and leave you, too
พวกเขาจะเติบโตขึ้น และแยกย้ายกันไปสร้างครอบครัวเหมือนกับลูก

I remember every word my papa used to say
ผมจำทุกคำสอนที่พ่อเคยพูดไว้
I live that every day
ผมใช้ชีวิตตามคำสอนของพ่ออยู่ทุกวัน
He taught me well that way
พ่อสอนผมมาดีจริงๆ

Every night my papa would take
ทุกๆ คืน พ่อจะอุ้มผมไปนอน
And tuck me in my bed
และห่มผ้าให้ผมบนเตียง
Kiss me on my head
จูบที่หัวผม
After all my prayers were said
หลังจากที่ผมสวดมนต์ก่อนนอนเสร็จ

Every night my papa would take
ทุกๆ คืน พ่อจะอุ้มผมไปนอน
And tuck me in my bed
และห่มผ้าให้ผมบนเตียง
Kiss me on my head
จูบที่หัวผม
After all my prayers were said
หลังจากที่ผมสวดมนต์ก่อนนอนเสร็จ

E

Everyday my papa would work
To help to make ends meet
To see that we would eat
Keep those shoes upon my feet

Every night my papa would take
And tuck me in my bed
Kiss me on my head
After all my prayers were said

Growing up with him was easy
Time just flew on by
The years began to fly
He aged and so did I

I could tell
That mama wasn’t well
Papa knew and deep down so did she, so did she
When she died
Papa broke down and cried
All he said was: “God, why not take me?”

Every night he sat there sleeping in his walking chair
He never went upstairs
All because she wasn’t there
Then one day my Papa said:
“Son, I’m proud the way you’ve grown
Make it on your own. Oh, I’ll be O.K. alone.”
Every time I kiss my children
Papa’s words ring true
Your children live through you
They’ll grow and leave you, too

I remember every word my papa used to say
I live that every day
He taught me well that way

Every night my papa would take
And tuck me in my bed
Kiss me on my head
After all my prayers were said

Every night my papa would take
And tuck me in my bed
Kiss me on my head
After all my prayers were said

T

ทุกๆ วัน พ่อผมจะออกไปทำงาน
เพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว
เพื่อให้เราได้มีกิน
ให้ผมมีรองเท้าเอาไว้สวมใส่

ทุกๆ คืน พ่อจะอุ้มผมไปนอน
และห่มผ้าให้ผมบนเตียง
จูบที่หัวผม
หลังจากที่ผมสวดมนต์ก่อนนอนเสร็จ

ผมเติบโตมากับพ่อด้วยความเรียบง่าย
แล้ววันเวลาก็ผ่านเลยไป
ปีแล้วปีเล่า
พ่อเริ่มแก่ขึ้น ผมเองก็อายุมากขึ้นเช่นกัน

ผมพอจะดูออก
ว่าแม่ไม่ค่อยสบาย
พ่อเองก็รู้ และลึกๆ ในใจแม่เองก็รู้อยู่เหมือนกัน แม่รู้ตัวเองดี
ในตอนที่แม่ตาย
พ่อเศร้า เสียใจ ร้องไห้ออกมา
พ่อพูดได้แต่เพียงว่า “พระเจ้า ทำไมไม่เอาชีวิตผมไปแทน”

ทุกๆ คืน พ่อจะนั่งหลับอยู่บนเก้าอี้เลื่อนตัวเดิมของพ่อ (Walking chair คือเก้าอี้ล้อเลื่อนชนิดหนึ่งที่ใช้ช่วยผู้พิการ และทารกในการเดิน, Rocking chair คือเก้าอี้ที่สามารถโยกไปโยกมาได้ เก้าอี้ที่เรามักจะเห็นบ่อยในหนังผี)
พ่อไม่เคยขึ้นไปชั้นบนอีกเลย
เพราะว่าไม่มีแม่อยู่บนห้องอีกแล้ว
แล้ววันหนึ่งพ่อก็พูดกับผมว่า
“ลูกชาย พ่อภูมิใจที่ลูกโตมาเป็นแบบนี้
ใช้ชีวิตตามทางของลูกเถอะ พ่ออยู่คนเดียวได้สบาย”
ทุกครั้งที่ผมจูบลูกๆ
ผมนึกถึงคำพูดของพ่อที่มันเป็นจริงเสมอ
ลูกๆ ของลูกจะโตได้ พวกเขาต้องพึ่งลูกนะ
พวกเขาจะเติบโตขึ้น และแยกย้ายกันไปสร้างครอบครัวเหมือนกับลูก

ผมจำทุกคำสอนที่พ่อเคยพูดไว้
ผมใช้ชีวิตตามคำสอนของพ่ออยู่ทุกวัน
พ่อสอนผมมาดีจริงๆ

ทุกๆ คืน พ่อจะอุ้มผมไปนอน
และห่มผ้าให้ผมบนเตียง
จูบที่หัวผม
หลังจากที่ผมสวดมนต์ก่อนนอนเสร็จ

ทุกๆ คืน พ่อจะอุ้มผมไปนอน
และห่มผ้าให้ผมบนเตียง
จูบที่หัวผม
หลังจากที่ผมสวดมนต์ก่อนนอนเสร็จ

E-T (Live)

Everyday my papa would work
ทุกๆ วัน พ่อผมจะออกไปทำงาน
To try to make ends meet
เพื่อพยายามหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว
To see that we would eat
เพื่อให้เราได้มีกิน
Keep those shoes upon my feet
ให้ผมมีรองเท้าเอาไว้สวมใส่

Every night my papa would take me
ทุกๆ คืน พ่อจะอุ้มผมไปนอน
Tuck me in my bed
และห่มผ้าให้ผมบนเตียง
Kiss me on my head
จูบที่หัวผม
After all my prayers were said
หลังจากที่ผมสวดมนต์ก่อนนอนเสร็จ

There were years of sadness and of tears
มีปีที่ต้องโศกเศร้า ปีที่ต้องเสียน้ำตา
Through it all, together we were strong, we were strong
แต่ครอบครัวเราเข้มแข็ง เราก้าวผ่านมันมาด้วยกัน
The times were rough, but papa he was tough
มีช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่พ่อผมเป็นนักสู้
And mama she stood beside him all along
และแม่ก็อยู่เคียงข้างเป็นกำลังใจให้พ่อเสมอมา

Growing up with them was easy
ผมเติบโตมากับพ่อแม่ด้วยความเรียบง่าย
Time just flew on by
แล้ววันเวลาก็ผ่านเลยไป
The years began to fly
ปีแล้วปีเล่า
Thay aged, but so did I
พ่อแม่เริ่มแก่ขึ้น ผมเองก็อายุมากขึ้นเช่นกัน

I could tell
ผมพอจะดูออก
Mama wasn’t well
ว่าแม่ไม่ค่อยสบาย
And Papa knew and deep down so did she, so did she
พ่อเองก็รู้ และลึกๆ ในใจแม่เองก็รู้อยู่เหมือนกัน แม่รู้ตัวเองดี
And when she died
ในตอนที่แม่ตาย
Papa broke down and cried
พ่อเศร้า เสียใจ ร้องไห้ออกมา
All he could say was: “God, why her?, take me”
พ่อพูดได้แต่เพียงว่า “พระเจ้า ทำไมต้องเป็นเธอด้วย เอาชีวิตฉันไปแทนเถอะ”

Every night he sat there sleeping in his rocking chair
ทุกๆ คืน พ่อจะนั่งหลับอยู่บนเก้าอี้โยกตัวเดิมของพ่อ (Rocking chair คือเก้าอี้ที่สามารถโยกไปโยกมาได้ เก้าอี้ที่เรามักจะเห็นบ่อยในหนังผี, Walking chair คือเก้าอี้ล้อเลื่อนชนิดหนึ่งที่ใช้ช่วยผู้พิการ และทารกในการเดิน)
He never went upstairs
พ่อไม่เคยขึ้นไปชั้นบนอีกเลย
‘Cause she wasn’t there
เพราะว่าไม่มีแม่อยู่บนห้องอีกแล้ว
Then one day my Papa said:
แล้ววันหนึ่งพ่อก็พูดกับผมว่า
Son, I’m proud of how you’ve grown
ลูกชาย พ่อภูมิใจที่ลูกโตขึ้นมา
He said: “Go make it on your own
พ่อพูดว่า “ไปใช้ชีวิตตามทางของลูกเถอะ
And don’t worry I’m O.K. alone.”
และอย่าได้กังวลไป พ่ออยู่คนเดียวได้สบาย”
He said: “There are things you must do
พ่อพูดว่า “มีอีกหลายสิ่งที่ลูกต้องทำ
Places you must see”
มีอีกหลายที่ ที่ลูกต้องได้เห็น”
His eyes sad as he
แววตาพ่อดูเศร้าขณะที่พ่อ
As he said goodbye to me
ขณะที่พ่อบอกลาผม
Every time I kiss my children
ทุกครั้งที่ผมจูบลูกๆ
Papa’s words ring true
ผมนึกถึงคำพูดของพ่อที่มันเป็นจริงเสมอ
He said: “Your children they live through you
พ่อพูดว่า “ลูกๆ ของลูกจะโตได้ พวกเขาต้องพึ่งลูกนะ
And they’ll grow and they’ll leave you, too”
พวกเขาจะเติบโตขึ้น และแยกย้ายกันไปสร้างครอบครัวเหมือนกับลูก”

I remember every word my papa used to say
ผมจำทุกคำสอนที่พ่อเคยพูดไว้
I kiss my kids and I pray
ฉันจูบลูกๆ และอธิษฐาน
That they’ll think, think of me that way
ขอให้พวกเขาคิดกับผมแบบนั้นบ้าง
Someday
ในสักวันหนึ่ง

E (Live)

Everyday my papa would work
To try to make ends meet
To see that we would eat
Keep those shoes upon my feet

Every night my papa would take me
Tuck me in my bed
Kiss me on my head
After all my prayers were said

There were years of sadness and of tears
Through it all, together we were strong, we were strong
The times were rough, but papa he was tough
And mama she stood beside him all along

Growing up with them was easy
Time just flew on by
The years began to fly
Thay aged, but so did I

I could tell
Mama wasn’t well
And Papa knew and deep down so did she, so did she
And when she died
Papa broke down and cried
All he could say was: “God, why her?, take me”

Every night he sat there sleeping in his rocking chair
He never went upstairs
‘Cause she wasn’t there
Then one day my Papa said:
Son, I’m proud of how you’ve grown
He said: “Go make it on your own
And don’t worry I’m O.K. alone.”
He said: “There are things you must do
Places you must see”
His eyes sad as he
As he said goodbye to me
Every time I kiss my children
Papa’s words ring true
He said: “Your children they live through you
And they’ll grow and they’ll leave you, too”

I remember every word my papa used to say
I kiss my kids and I pray
That they’ll think, think of me that way
Someday

T (Live)

ทุกๆ วัน พ่อผมจะออกไปทำงาน
เพื่อพยายามหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว
เพื่อให้เราได้มีกิน
ให้ผมมีรองเท้าเอาไว้สวมใส่

ทุกๆ คืน พ่อจะอุ้มผมไปนอน
และห่มผ้าให้ผมบนเตียง
จูบที่หัวผม
หลังจากที่ผมสวดมนต์ก่อนนอนเสร็จ

มีปีที่ต้องโศกเศร้า ปีที่ต้องเสียน้ำตา
แต่ครอบครัวเราเข้มแข็ง เราก้าวผ่านมันมาด้วยกัน
มีช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่พ่อผมเป็นนักสู้
และแม่ก็อยู่เคียงข้างเป็นกำลังใจให้พ่อเสมอมา

ผมเติบโตมากับพ่อแม่ด้วยความเรียบง่าย
แล้ววันเวลาก็ผ่านเลยไป
ปีแล้วปีเล่า
พ่อแม่เริ่มแก่ขึ้น ผมเองก็อายุมากขึ้นเช่นกัน

ผมพอจะดูออก
ว่าแม่ไม่ค่อยสบาย
พ่อเองก็รู้ และลึกๆ ในใจแม่เองก็รู้อยู่เหมือนกัน แม่รู้ตัวเองดี
ในตอนที่แม่ตาย
พ่อเศร้า เสียใจ ร้องไห้ออกมา
พ่อพูดได้แต่เพียงว่า “พระเจ้า ทำไมต้องเป็นเธอด้วย เอาชีวิตฉันไปแทนเถอะ”

ทุกๆ คืน พ่อจะนั่งหลับอยู่บนเก้าอี้โยกตัวเดิมของพ่อ (Rocking chair คือเก้าอี้ที่สามารถโยกไปโยกมาได้ เก้าอี้ที่เรามักจะเห็นบ่อยในหนังผี, Walking chair คือเก้าอี้ล้อเลื่อนชนิดหนึ่งที่ใช้ช่วยผู้พิการ และทารกในการเดิน)
พ่อไม่เคยขึ้นไปชั้นบนอีกเลย
เพราะว่าไม่มีแม่อยู่บนห้องอีกแล้ว
แล้ววันหนึ่งพ่อก็พูดกับผมว่า
ลูกชาย พ่อภูมิใจที่ลูกโตขึ้นมา
พ่อพูดว่า “ไปใช้ชีวิตตามทางของลูกเถอะ
และอย่าได้กังวลไป พ่ออยู่คนเดียวได้สบาย”
พ่อพูดว่า “มีอีกหลายสิ่งที่ลูกต้องทำ
มีอีกหลายที่ ที่ลูกต้องได้เห็น”
แววตาพ่อดูเศร้าขณะที่พ่อ
ขณะที่พ่อบอกลาผม
ทุกครั้งที่ผมจูบลูกๆ
ผมนึกถึงคำพูดของพ่อที่มันเป็นจริงเสมอ
พ่อพูดว่า “ลูกๆ ของลูกจะโตได้ พวกเขาต้องพึ่งลูกนะ
พวกเขาจะเติบโตขึ้น และแยกย้ายกันไปสร้างครอบครัวเหมือนกับลูก”

ผมจำทุกคำสอนที่พ่อเคยพูดไว้
ฉันจูบลูกๆ และอธิษฐาน
ขอให้พวกเขาคิดกับผมแบบนั้นบ้าง
ในสักวันหนึ่ง

ให้คะแนนสำหรับคำแปลเพลงนี้

คะแนนเฉลี่ย 5 คะแนน, จำนวนคนโหวต 3 คน

กดโหวตคนแรกเพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้แปล

เขียนข้อเสนอแนะของท่านเพื่อให้เราทำการแก้ไข และปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น

Comments are off this post

💙 หมวดหมู่

แปลเพลงสากล ยุค 50 แปลเพลงสากล ยุค 60 แปลเพลงสากล ยุค 70 แปลเพลงสากล ยุค 80 แปลเพลงสากล ยุค 90 แปลเพลงสากล ยุค 2000+ เพลงรักสากลแปลไทย เพลงสากลอกหักแปลไทย เนื้อเพลงสากลแปลไทย