LYRIC
Eng - Thai
Whatsoever I feared has come to light
สิ่งที่ฉันกลัวมันเกิดขึ้นแล้ว
And whatsoever I’ve fought off became my life
และอะไรที่ฉันเคยต่อต้าน ฉันกลับเป็นมันซะเอง
Just when every day seemed to greet me with a smile
ในแต่ละวันเหมือนฉันจะเจอแต่ความสุข
Sunspots have faded, now I’m doin’ time, now I’m doin’ time
ตัวฉันเริ่มขาวขึ้น แต่ตอนนี้ฉันถูกจองจำ กำลังใช้ชีวิตอยู่กับความทุกข์ (doing time ศัพท์สแลง หมายถึงการใช้เวลาในคุกหรือเรือนจำ)
‘Cause I fell on black days
เพราะฉันเจอกับวันที่หนักหนา
I fell on black days
ฉันเจอกับวันที่แสนมืดมน
Whomsoever I’ve cured, I’ve sickened now
ใครก็ตามที่ฉันเคยรักษา ตอนนี้ต่างพากันทรุดลงเพราะฉัน
And whomsoever I’ve cradled, I’ve put you down
และใครก็ตามที่ฉันเคยปกป้อง ตอนนี้ฉันทำให้พวกคุณต้องผิดหวัง
I’m a searchlight soul, they say, but I can’t see it in the night
พวกเขาบอกว่าฉันเป็นเหมือนคนที่คอยนำทางคนอื่นไปสู่แสงสว่าง แต่พอเจอเรื่องร้ายๆ ในชีวิตตัวเองกลับทำอะไรไม่ได้
I’m only faking, when I get it right, when I get it right
ฉันก็แค่แกล้งทำเป็นเข้าใจ ในเวลาคนเห็นว่าฉันเข้าใจทุกอย่างดี
‘Cause I fell on black days
เพราะฉันเจอกับวันที่หนักหนามา
I fell on black days
ฉันเจอกับวันที่แสนมืดมน
How would I know that this could be my fate?
ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่านี่คือโชคชะตาของฉันหรือเปล่า
How would I know that this could be my fate?
ฉันจะรู้ได้ยังไงว่านี่อาจจะเป็นโชคชะตาของฉัน
So what you wanted to see good has made you blind
หากคุณอยากจะเห็นแต่สิ่งดีๆ มันจะทำให้คุณตาบอด (เปรียบเหมือนการมองโลกในด้านเดียว เลือกที่จะมองแต่สิ่งดีๆ ทำให้มองไม่เห็นสิ่งที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นในขณะเดียวกัน)
And what you wanted to be yours has made it mine
และอะไรก็ตามที่คุณอยากได้ มันจะกลายเป็นของฉัน (คนที่อยากได้อะไร มักไม่ได้อย่างใจหวัง)
So don’t you lock up somethin’ that you wanted to see fly
อย่าได้ปิดกั้นอะไรก็แล้วแต่ หากคุณอยากจะเห็นสิ่งนั้นมันโบยบิน
Hands are for shaking, no, not tying, no, not tying
มือมีไว้ผูกมิตร ไม่ได้มีเอาไว้สร้างศัตรู
I sure don’t mind a change
ฉันไม่ติดนะหากมีการเปลี่ยนแปลง
I sure don’t mind a change
หากมีการเปลี่ยนแปลงฉันก็ไม่ขัดข้องอะไร
Yeah, sure don’t mind, sure don’t mind a change
มั่นใจว่าไม่ติดอะไรกับการเปลี่ยนแปลง
I sure don’t mind a change
หากมีการเปลี่ยนแปลงฉันก็ว่าอะไร
‘Cause I fell on black days
เพราะฉันเจอกับวันที่หนักหนามา
I fell on black days
ฉันเจอกับวันที่แสนมืดมน
How would I know that this could be my fate?
ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่านี่คือโชคชะตาของฉันหรือเปล่า
How would I know that this could be my fate?
ฉันจะรู้ได้ยังไงว่านี่อาจจะเป็นโชคชะตาของฉัน
How would I know that this could be my fate?
ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่านี่คือโชคชะตาของฉันหรือเปล่า
How would I know that this could be my fate?
ฉันจะรู้ได้ยังไงว่านี่อาจจะเป็นโชคชะตาของฉัน
I sure don’t mind a change
หากมีการเปลี่ยนแปลงฉันก็ไม่ติดขัดอะไร
Eng
Whatsoever I feared has come to light
And whatsoever I’ve fought off became my life
Just when every day seemed to greet me with a smile
Sunspots have faded, now I’m doin’ time, now I’m doin’ time
‘Cause I fell on black days
I fell on black days
Whomsoever I’ve cured, I’ve sickened now
And whomsoever I’ve cradled, I’ve put you down
I’m a searchlight soul, they say, but I can’t see it in the night
I’m only faking, when I get it right, when I get it right
‘Cause I fell on black days
I fell on black days
How would I know that this could be my fate?
How would I know that this could be my fate?
So what you wanted to see good has made you blind
And what you wanted to be yours has made it mine
So don’t you lock up somethin’ that you wanted to see fly
Hands are for shaking, no, not tying, no, not tying
I sure don’t mind a change
I sure don’t mind a change
Yeah, sure don’t mind, sure don’t mind a change
I sure don’t mind a change
‘Cause I fell on black days
I fell on black days
How would I know that this could be my fate?
How would I know that this could be my fate?
How would I know that this could be my fate?
How would I know that this could be my fate?
I sure don’t mind a change
Thai
สิ่งที่ฉันกลัวมันเกิดขึ้นแล้ว
และอะไรที่ฉันเคยต่อต้าน ฉันกลับเป็นมันซะเอง
ในแต่ละวันเหมือนฉันจะเจอแต่ความสุข
ตัวฉันเริ่มขาวขึ้น แต่ตอนนี้ฉันถูกจองจำ กำลังใช้ชีวิตอยู่กับความทุกข์ (doing time ศัพท์สแลง หมายถึงการใช้เวลาในคุกหรือเรือนจำ)
เพราะฉันเจอกับวันที่หนักหนา
ฉันเจอกับวันที่แสนมืดมน
ใครก็ตามที่ฉันเคยรักษา ตอนนี้ต่างพากันทรุดลงเพราะฉัน
และใครก็ตามที่ฉันเคยปกป้อง ตอนนี้ฉันทำให้พวกคุณต้องผิดหวัง
พวกเขาบอกว่าฉันเป็นเหมือนคนที่คอยนำทางคนอื่นไปสู่แสงสว่าง แต่พอเจอเรื่องร้ายๆ ในชีวิตตัวเองกลับทำอะไรไม่ได้
ฉันก็แค่แกล้งทำเป็นเข้าใจ ในเวลาคนเห็นว่าฉันเข้าใจทุกอย่างดี
เพราะฉันเจอกับวันที่หนักหนามา
ฉันเจอกับวันที่แสนมืดมน
ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่านี่คือโชคชะตาของฉันหรือเปล่า
ฉันจะรู้ได้ยังไงว่านี่อาจจะเป็นโชคชะตาของฉัน
หากคุณอยากจะเห็นแต่สิ่งดีๆ มันจะทำให้คุณตาบอด (เปรียบเหมือนการมองโลกในด้านเดียว เลือกที่จะมองแต่สิ่งดีๆ ทำให้มองไม่เห็นสิ่งที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นในขณะเดียวกัน)
และอะไรก็ตามที่คุณอยากได้ มันจะกลายเป็นของฉัน (คนที่อยากได้อะไร มักไม่ได้อย่างใจหวัง)
อย่าได้ปิดกั้นอะไรก็แล้วแต่ หากคุณอยากจะเห็นสิ่งนั้นมันโบยบิน
มือมีไว้ผูกมิตร ไม่ได้มีเอาไว้สร้างศัตรู
ฉันไม่ติดนะหากมีการเปลี่ยนแปลง
หากมีการเปลี่ยนแปลงฉันก็ไม่ขัดข้องอะไร
มั่นใจว่าไม่ติดอะไรกับการเปลี่ยนแปลง
หากมีการเปลี่ยนแปลงฉันก็ว่าอะไร
เพราะฉันเจอกับวันที่หนักหนามา
ฉันเจอกับวันที่แสนมืดมน
ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่านี่คือโชคชะตาของฉันหรือเปล่า
ฉันจะรู้ได้ยังไงว่านี่อาจจะเป็นโชคชะตาของฉัน
ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่านี่คือโชคชะตาของฉันหรือเปล่า
ฉันจะรู้ได้ยังไงว่านี่อาจจะเป็นโชคชะตาของฉัน
หากมีการเปลี่ยนแปลงฉันก็ไม่ติดขัดอะไร
Comments are off this post